คำถามที่พบบ่อย
อ่านคำถามที่พบบ่อยของเราด้านล่าง หากต้องการข้อมูลที่ละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่พอร์ทัลความช่วยเหลือของเราที่นี่
โปรแกรมผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ช่วยให้ผู้ซื้อขายที่ผ่านการประเมินสามารถเข้าถึงบัญชีผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading และแบ่งปันกำไรขาดทุนที่ผู้ซื้อขายแบบดังกล่าวทำได้ ผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA เป็นผู้ให้บริการสัญญาณให้กับโมเดลการซื้อขายที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OANDA โมเดลการซื้อขายที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OANDA ใช้สัญญาณการซื้อขายที่สร้างขึ้นโดยผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อขายในตลาด เงินทุนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OANDA อยู่ในความเสี่ยง ดังนั้น OANDA จึงขอให้ผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ที่มีศักยภาพของ OANDA เข้าสอบ เพื่อให้มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมโปรแกรม และแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างผลกำไรและการจัดการความเสี่ยง แม้ว่าเงินทุนที่ให้ในบัญชีผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA จะเป็นแบบเสมือนจริงและการซื้อขายที่ผู้ให้บริการสัญญาณเปิดสถานะนั้นก็เป็นแบบเสมือนจริง แต่ผู้ให้บริการสัญญาณมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งผลกำไรใด ๆ ที่ตนทำในบัญชีเสมือนจริง ผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเทคโนโลยีและความสัมพันธ์ทางการตลาดของเรา เพื่อช่วยให้พวกเขาใช้ทักษะการซื้อขายเพื่อสร้างผลกำไร
ผู้ใดก็ตามที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจากรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุมัติของเรา สามารถเข้าสอบและมีคุณสมบัติเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA เพื่อให้มีคุณสมบัติ เราจึงขอให้ผู้ซื้อขายที่มีศักยภาพผ่านการสอบสองช่วงโดยใช้บัญชีทดลอง ผู้ซื้อขายในการสอบจะต้องซื้อขายตามกฎและต้องตรงตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ
หากคุณผ่านการสอบ ขั้นตอนที่สองคือขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งเราจะขอให้คุณแสดงบัตรประจำตัวแล้วดำเนินการตรวจสอบใบหน้า คุณต้องเป็นเจ้าของบัญชี OANDA Global Markets ที่ใช้งานอยู่ ซึ่งเป็นที่ที่จะเราจะจ่ายส่วนแบ่งกำไรขาดทุนให้
หากคุณไม่มีบัญชีกับ OANDA Global Markets เราจะส่งลิงก์เพื่อให้สมัครบัญชีที่ต้องมีหลังจากที่คุณผ่านการสอบ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูข้อกำหนดและเงื่อนไข
เรายินดีต้อนรับผู้ซื้อขายจากทั่วทุกมุมโลก ปัจจุบันโปรแกรมการสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading และโปรแกรมผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA มีให้บริการในประเทศที่ระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไข
การซื้อขายแบบมีกรรมสิทธิ์หรือ Prop Trading คือแนวทางปฏิบัติที่ผู้การซื้อขายมีส่วนร่วมในกิจกรรมการซื้อขายโดยใช้เงินทุนของบริษัทซื้อขายแบบ Prop Trading แทนที่จะเป็นทรัพยากรทางการเงินของตนเอง การซื้อขายที่ดำเนินการเสร็จแล้วและเงินทุนที่ใช้อาจเป็นได้ทั้งแบบเสมือนจริงหรือแบบของจริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานของบริษัทแบบ Prop
ผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading คือผู้ที่ดำเนินการซื้อขายอุปกรณ์แบบ Prop Trading โดยใช้เงินทุนจริงหรือเสมือนจริงที่ได้รับจากผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายแบบ Prop Trading โดยปกติแล้วผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading มีอิสระในการตัดสินใจซื้อขายในระดับสูง แต่เงินทุนของบริษัทอาจตกอยู่ในความเสี่ยง และมักจะมีการตรวจสอบกิจกรรมการซื้อขายในระดับที่สูงกว่า โดยมีการกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวด โดยปกติบริษัทซื้อขายแบบ Prop Trading จะกำหนดเกณฑ์การขาดทุน (เรียกว่าขีดจำกัดผลการขาดทุนสูงสุด) หากบัญชีซื้อขายของผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ บัญชีนั้นจะถูกระงับ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่
บริษัทที่ซื้อขายแบบ Prop Trading จะจัดสรรเงินทุนตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ให้กับผู้ซื้อขายเพื่อใช้ในการซื้อขาย ผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ต้องเผชิญกับความท้าทายเช่นเดียวกับผู้ซื้อขายมาตรฐาน และสามารถใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างในการซื้อขายได้เช่นเดียวกับผู้ซื้อขายมาตรฐาน
ในการสถานการณ์การซื้อขายแบบมาตรฐานทั่วไป ผู้ซื้อขายจะใช้เงินทุนของตนในการซื้อขาย และบริษัทจะได้รับรายได้เป็นค่าคอมมิชชั่นหรือเปอร์เซ็นต์จากการทำหน้าที่เป็นโบรกเกอร์ในนามของลูกค้า
ในกรณีของการซื้อขายแบบ Prop Trading บริษัทจะใช้เงินทุนของตนเอง ดังนั้นจึงได้รับผลกำไรหรือขาดทุนที่ทำได้จากการซื้อขายในตลาดเต็ม 100% ผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading จะได้รับส่วนแบ่งผลกำไรที่ตนทำได้ในพอร์ตการซื้อขายของตนเองตามที่ตกลง
การสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA คือสภาพแวดล้อมสำหรับบัญชีทดลองที่ให้ผู้ซื้อขายมีโอกาสทดสอบกลยุทธ์และทักษะของตน
การสอบแบ่งออกเป็นสองช่วง แต่ละช่วงมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายผลกำไรที่แตกต่างกัน หากคุณผ่านทั้งสองช่วงของการสอบ คุณจะเข้าสู่ขั้นตอนการยืนยันตัวตนก่อนที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการสอบช่วงที่ 1 คุณจะต้องทำให้ถึงเป้าหมายกำไร 8% ซึ่งคำนวณจากกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของบัญชีตามแพลตฟอร์ม MT5 สำหรับการสอบช่วงที่ 2 เป้าหมายกำไรอยู่ที่ 5% (คำนวณในลักษณะเดียวกัน)
เราเรียกเก็บค่าสมัครสอบในการเข้าสอบ ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของบัญชีที่ผู้ซื้อขายต้องการซื้อขายและส่วนแบ่งกำไร มีแปดระดับ แต่ละระดับมีค่าสมัครสอบของตัวเอง ระดับเงินทุนเสมือนจริง และส่วนแบ่งกำไรให้:
| ระดับ | 5K | 10K | 25k | 50k | 100k | 188k | 250k |
|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ค่าธรรมเนียม | $35 | $60 | $199 | $299 | $599 | $888 | $1,200 |
| เงินทุนเสมือน | $5,000 | $10,000 | $25,000 | $50,000 | $100,000 | $188,888 | $250,000 |
| ส่วนแบ่งกำไร | 80% | 80% | 80% | 80% | 80% | 80% | 80% |
| ระดับ | 10K | 50K | 100K |
|---|---|---|---|
| ค่าธรรมเนียม | $99 | $399 | $699 |
| เงินทุนเสมือน | $10,000 | $50,000 | $100,000 |
| ส่วนแบ่งกำไร |
80% - การจ่ายครั้งแรก 90% - การจ่ายครั้งถัดไป |
80% - การจ่ายครั้งแรก 90% - การจ่ายครั้งถัดไป |
80% - การจ่ายครั้งแรก 90% - การจ่ายครั้งถัดไป |
เพื่อประสบความสำเร็จในการสอบแต่ละช่วง คุณจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขหลายประการ
คุณสามารถดูรายละเอียดกฎและเงื่อนไขการสอบทั้งหมดได้ที่นี่
| ช่วงที่1 | ช่วงที่ 2 | |
|---|---|---|
| เป้าหมายกำไร |
8% คลาสสิก 10% บูสต์ |
5% คลาสสิก 5% บูสต์ |
| ขีดจำกัดการขาดทุนรายวัน |
5% - ความท้าทายแบบ คลาสสิก
จะเป็นค่าคงที่ตลอดวันการเทรด โดยคำนวณจาก 5% ของมูลค่าทุนในบัญชี ณ สิ้นวัน (EoD Equity) ก่อนหน้านั้น 5% - ความท้าทายแบบ Boost จะเป็นจำนวนคงที่ 5% ของยอดเงินเริ่มต้น (Initial balance) ในบัญชี |
5% - ความท้าทายแบบ คลาสสิก
จะเป็นค่าคงที่ตลอดวันการเทรด โดยคำนวณจาก 5% ของมูลค่าทุนในบัญชี ณ สิ้นวัน (EoD Equity) ก่อนหน้านั้น 5% - ความท้าทายแบบ Boost จะเป็นจำนวนคงที่ 5% ของยอดเงินเริ่มต้น (Initial balance) ในบัญชี |
| การขาดทุนสูงสุด |
10% trailing - ความท้าทายแบบคลาสสิก
จากการอัปเดตยอดคงเหลือ High Watermark ใหม่ (กำไรหรือขาดทุนที่รับรู้ในบัญชี) ตัวอย่าง ดังนี้ 10% คงที่ - ความท้าทายแบบ บูสต์ (จากยอดเงินเริ่มต้น) |
10% trailing - ความท้าทายแบบคลาสสิก
จากการอัปเดตยอดคงเหลือ High Watermark ใหม่ (กำไรหรือขาดทุนที่รับรู้ในบัญชี) ตัวอย่าง ดังนี้ 10% คงที่ - ความท้าทายแบบ บูสต์ (จากยอดเงินเริ่มต้น) |
| ขีดจำกัดกำไรสูงสุดรายวัน (กฎการซื้อขายที่สอดคล้องกัน) |
กำไรสูงสุดรายวัน 5% เมื่อมาถึงจุดนี้ สถานะที่เปิดอยู่ทั้งหมดจะถูกปิดและการซื้อขายจะหยุดลงจนถึงวันถัดไป (คลาสสิกและบูสต์) |
กำไรสูงสุดรายวัน 2% เมื่อมาถึงจุดนี้ สถานะที่เปิดอยู่ทั้งหมดจะถูกปิดและการซื้อขายจะหยุดลงจนถึงวันถัดไป (คลาสสิกและบูสต์) |
| เลเวอเรจ | สูงสุด 100:1 (FX และทองคำ) สูงสุด 50:1 (ดัชนี CFD และสินค้าโภคภัณฑ์) | สูงสุด 100:1 (FX และทองคำ) สูงสุด 50:1 (ดัชนี CFD และสินค้าโภคภัณฑ์) |
| ส่วนลดการสอบใหม่ |
20% สำหรับบัญชี 5,000 - 50,000 ดอลลาร์ 10% สำหรับบัญชี 100,000 - 500,000 ดอลลาร์ (ใช้ได้กับแผนคลาสสิก) 10% สำหรับบัญชีทั้งหมด (ใช้ได้กับแผนบูสต์) |
20% สำหรับบัญชี 5,000 - 50,000 ดอลลาร์ 10% สำหรับบัญชี 100,000 - 500,000 ดอลลาร์ (ใช้ได้กับแผนคลาสสิก) 10% สำหรับบัญชีทั้งหมด (ใช้ได้กับแผนบูสต์) |
| คืนค่าสมัครสอบ | มีให้ในการจ่ายส่วนแบ่งกำไรครั้งแรก | มีให้ในการจ่ายส่วนแบ่งกำไรครั้งแรก |
| จำนวนการจ่ายขั้นต่ำ (ในขั้นตอนของผู้ให้สัญญาณ) |
ขั้นต่ำ $200 (สำหรับแผนคลาสสิกทุกรูปแบบ) 2% ของยอดเงินเริ่มต้น (สำหรับแผนบูสต์ทุกรูปแบบ) |
ขั้นต่ำ $200 (สำหรับแผนคลาสสิกทุกรูปแบบ) 2% ของยอดเงินเริ่มต้น (สำหรับแผนบูสต์ทุกรูปแบบ) |
| ขนาดการซื้อขายต่ำสุด | 0.1 ล็อต หรือ 1 CFD ดัชนี | 0.1 ล็อต หรือ 1 CFD ดัชนี |
| เวลาที่ไม่มีการใช้งาน | 20 วันตามปฏิทิน | 20 วันตามปฏิทิน |
| จำเป็นต้องมี StopLoss | ไม่จำเป็น | ไม่จำเป็น |
| การจัดสรรเงินทุนสูงสุด |
ความท้าทายแบบคลาสสิกสามารถรวมกันได้สูงสุดถึง $500,000 ความท้าทายแบบบูสต์ไม่สามารถรวมกันได้ |
ความท้าทายแบบคลาสสิกสามารถรวมกันได้สูงสุดถึง $500,000 ความท้าทายแบบบูสต์ไม่สามารถรวมกันได้ |
| การเทรดตามข่าว | การเทรดสองนาทีก่อนและ/หรือสองนาทีหลังจากเหตุการณ์ข่าวไม่ได้รับอนุญาต การเทรดที่เปิดในช่วงเวลานี้จะถูกปิดและ PL จะถูกสรุปในบัญชี การเทรดในช่วงเวลาข่าวถือเป็นการละเมิดแบบเบา | การเทรดสองนาทีก่อนและ/หรือสองนาทีหลังจากเหตุการณ์ข่าวไม่ได้รับอนุญาต การเทรดที่เปิดในช่วงเวลานี้จะถูกปิดและ PL จะถูกสรุปในบัญชี |
| คัดลอกการซื้อขาย | อนุญาตให้คัดลอกจากบัญชีไปยังบริษัทที่ไม่ใช่ของ OANDA และบุคคลที่สามได้ อย่างไรก็ตาม ไม่อนุญาตให้คัดลอกจากบริษัทภายนอกหรือบริการของบุคคลที่สามไปยังบัญชี OANDA (การละเมิดกฎข้อบังคับอย่างรุนแรง: ส่งผลให้บัญชีถูกปิด) | อนุญาตให้คัดลอกจากบัญชีไปยังบริษัทที่ไม่ใช่ของ OANDA และบุคคลที่สามได้ อย่างไรก็ตาม ไม่อนุญาตให้คัดลอกจากบริษัทภายนอกหรือบริการของบุคคลที่สามไปยังบัญชี OANDA (การละเมิดกฎข้อบังคับอย่างรุนแรง: ส่งผลให้บัญชีถูกปิด) |
| กลยุทธ์การซื้อขาย แบบ EA, Martingale, Scalping | อนุญาตภายใต้ข้ อกำหนดและเงื่อนไข | อนุญาตภายใต้ข้ อกำหนดและเงื่อนไข |
เราเรียกเก็บค่าสมัครสอบเพื่อใช้ดูแลค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการการประเมินค่าและประเมินผลการซื้อขายของคุณ โปรแกรมผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA เป็นบริการที่ให้คุณค่าสูงสำหรับผู้ซื้อขายที่ทุ่มเท มีความสามารถ และจริงจัง โดยเรามีระบบการซื้อขายและศักยภาพในการทำกำไรให้แก่ผู้ซื้อขาย และคิดว่าค่าสมัครสอบของเราแสดงถึงคุณค่าที่เป็นเลิศ หากคุณสอบผ่านและเป็นผู้ให้สัญญาณ คุณจะได้รับคืนค่าสมัครสอบที่คุณจ่ายไป 100% ในกรณีที่คุณผ่านการสอบนั้น โดยจะคืนให้คุณพร้อมกับการจ่ายค่าตอบแทนครั้งแรก
คุณสามารถชำระค่าสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต, Apple Pay (ขึ้นอยู่กับเขตอำนาจศาล), Google Pay และสกุลเงินดิจิทัล, Union Pay (ขึ้นอยู่กับเขตอำนาจศาล)
คุณสามารถเข้าร่วมการสอบได้โดยไม่มีการจำกัดจำนวนครั้ง จึงรู้สึกอิสระที่จะเผชิญกับการสอบหลายครั้ง
เราจะเริ่มดำเนินการสร้างบัญชีการสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ทันทีที่เราได้รับการชำระเงิน เมื่อเราสร้างบัญชีการสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ให้คุณ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนการสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ทางอีเมล และคุณจะพบข้อมูลการเข้าสู่ระบบแพลตฟอร์มการซื้อขายได้โดยตรงในแดชบอร์ดสำหรับผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading โปรดตรวจดูกล่องจดหมายของคุณ รวมถึงโฟลเดอร์สแปมและขยะด้วย สิ่งสำคัญคือคุณต้องปกป้องข้อมูลประจำตัวสำหรับเข้าสู่ระบบของคุณ และอย่าแบ่งปันหรืออนุญาตให้ผู้อื่นนำไปใช้
มี หากคุณไม่ผ่านความท้าทายในการลองครั้งแรก คุณจะได้รับส่วนลดเมื่อคุณลองอีกครั้ง ส่วนลดจะขึ้นอยู่กับแผนและขนาดบัญชีของคุณ
- สำหรับแผนคลาสสิก:
- ส่วนลด 20% สำหรับแผน 5k - 50k
- ส่วนลด 10% สำหรับแผน 100k - 500k
- สำหรับแผนบูสต์:
- ส่วนลด 10% สำหรับทุกแผน
ส่วนลดนี้ใช้กับค่าธรรมเนียมที่ชำระสำหรับการกลับเข้าร่วมความท้าทายหลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จในการลองครั้งแรก
หลังจากที่คุณทำได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์การซื้อขายทั้งหมดในการสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA แล้ว เราจะแจ้งให้คุณทราบว่าคุณทำได้สำเร็จแล้ว บัญชีของคุณจะถูกจัดเข้าสู่โหมดอ่านอย่างเดียว และเราจะรับการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติว่าคุณได้ผ่านการสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA แล้ว จากนั้นเราจะประเมินผลการซื้อขายของคุณภายใน 1-2 วันทำการ และคุณจะเข้าสู่ขั้นตอนการยืนยัน
คุณจะต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนและตั้งค่าบัญชี OANDA Global Markets
หากต้องการออกสัญญาเพื่อให้คุณเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA หลังจากที่เราตรวจสอบการซื้อขายของคุณแล้ว เราจะต้องยืนยันตัวตนของคุณผ่านชุดการตรวจสอบ
สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ทุกคนที่เข้าร่วมในโปรแกรมผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ปลอดภัย การตรวจสอบของเราช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของการฉ้อโกง นั่นเป็นเหตุผลที่สิ่งเหล่านี้จึงเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายในหลายประเทศและดินแดนทั่วโลก
เพื่อให้คุณเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA คุณจะต้องลงชื่อเข้าใช้แดชบอร์ดและยืนยัน Know Your Customer (KYC) ให้เสร็จ เราจะขอบัตรประจำตัวของคุณในขั้นตอนนี้ รวมถึงขอตรวจสอบใบหน้า
แบบฟอร์มบัตรประจำตัวที่เรายอมรับอาจแตกต่างกันไปตามประเทศที่คุณพำนัก แต่โดยปกติจะมาจากรายการต่อไปนี้
- หนังสือเดินทาง
- บัตรประจำตัวที่ทางราชการออกให้
- ใบขับขี่
- ใบสำคัญถิ่นที่อยู่อย่างเป็นทางการหรือที่ออกโดยรัฐบาล
คุณสามารถดูรายการแบบฟอร์มบัตรประจำตัวทั้งหมดที่ยอมรับสำหรับประเทศของคุณได้ในลิงก์นี้
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ควรทราบมีดังนี้
- เอกสารต้องมีอายุอย่างน้อยหนึ่งเดือนนับจากวันที่อัปโหลด
- เอกสารต้องไม่เสียหาย มีรอยขีดข่วน มีรอยเปื้อน หรือฉีกขาด
- ชื่อเต็ม, วันเกิด, MRZ (โซนที่เครื่องอ่านได้เป็นองค์ประกอบที่เข้ารหัสของเอกสารประจำตัว) และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ของผู้สมัครจะต้องปรากฏอยู่และอ่านได้ชัดเจน
- เอกสารทั้งหมดในใบสมัครต้องเป็นของบุคคลคนเดียวกัน
เพื่อให้คุณได้รับการจ่ายเงิน คุณจะต้องมีบัญชี OANDA Global Markets หากคุณยังไม่มีบัญชี OANDA Global Markets เราจะส่งคำเชิญพิเศษให้คุณสร้างบัญชีเมื่อคุณทำการสอบสำเร็จ
โปรดทราบ:
- คุณไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชี OANDA Global Markets ก่อนที่คุณจะทำการสอบให้สำเร็จ
- OANDA Global Markets ปัจจุบันรับเฉพาะประเทศที่ระบุไว้ที่นี่ (here-insert link) ในการตั้งค่าบัญชีซื้อขายที่ฝากเงินด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ หากคุณอาศัยอยู่นอกประเทศที่ระบุไว้ในรายการนี้ คุณจะได้รับลิงก์เชิญสำหรับการลงทะเบียน OANDA Global Markets เมื่อคุณทำการสอบให้สำเร็จ
ในการสมัคร OANDA Global Markets เราจะขอข้อมูลต่อไปนี้จากคุณ
- ประเทศที่พำนัก
- ชื่อเต็มเป็นภาษาอังกฤษตามบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของคุณ
- วันเกิด
- ประเทศ/ภูมิภาคที่เกิด
- ที่อยู่อีเมล
- หมายเลขโทรศัพท์
- ที่อยู่ที่พำนัก
- สถานภาพการจ้างงานและรายละเอียดทางการเงิน
เมื่อใบสมัครของคุณถูกส่งและอนุมัติแล้ว คุณจะได้รับอีเมลอนุมัติจาก OANDA โดยปกติแล้วเราจะใช้เวลาดำเนินการ 1-2 วันทำการ และอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อมูลเพิ่มเติม ต้องระบุ คุณจะต้องระบุรายละเอียดบัญชี OANDA Global Markets เพื่อดำเนินขั้นตอนการเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA ให้เสร็จ
หลังจากที่คุณตรวจสอบและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง (เรียกว่าข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ให้สัญญาณ และนโยบายความเป็นส่วนตัว) จนเสร็จ คุณจะได้รับข้อมูลประจำตัวสำหรับผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA และคุณจะสามารถเริ่มการซื้อขายในฐานะผู้ให้สัญญาณได้
ผู้ให้สัญญาณเป็นคำที่ใช้อธิบายถึงผู้ซื้อขายที่แชร์ให้เข้าถึงข้อมูลในแพลตฟอร์มการซื้อขายของตน ในกรณีของโปรแกรมผู้ซื้อขายแบบ Prop Trader ของเรา ข้อมูลการซื้อขายจะถูกแชร์ให้กับ OANDA OANDA ใช้สัญญาณการซื้อขายเหล่านี้ในลักษณะข้อมูลเข้า เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขายที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OANDA
สัญญาณการซื้อขายคือการแจ้งเตือนถึงโอกาสในการซื้อขายในตลาดการเงิน
OANDA Global Markets Limited เป็นบริษัทจำกัดเอกชนที่จดทะเบียนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน (หมายเลขจดทะเบียนบริษัท 2026433) OANDA Global Markets Limited ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริการด้านการเงินของเกาะบริติชเวอร์จิน (BVI)
บัญชี OANDA Global Markets คือบัญชีที่จะใช้ในการรับค่าตอบแทนของคุณ ซึ่งเป็นบทบาทเดียวที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA การซื้อขายใด ๆ ที่คุณอาจเลือกในการดำเนินการโดยใช้เงินทุนของตนเองในบัญชีนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของคุณในโปรแกรมผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA
เราไม่อนุญาตให้มีบัญชีผู้ให้สัญญาณหลายบัญชีได้ และคุณสามารถมีบัญชีผู้ให้สัญญาณที่ใช้งานอยู่ได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น หากผู้ซื้อขายประสบความสำเร็จในการสอบเป็นผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA หลายระดับ แผนเงินทุนเสมือนจริงต่าง ๆ จะถูกรวมไว้ในบัญชีเดียว โดยมีสูงสุดไม่เกิน
$500,000 หากผู้ซื้อขายสอบเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจะส่งผลให้การจัดสรรเงินทุนเสมือนจริงมีมูลค่ามากกว่า $500,000 เงินทุนดังกล่าวจะไม่ถูกรวมเข้าหรือจัดสรรให้กับบัญชีเสมือนจริงจนกว่าจะถึงเวลาที่ผู้ซื้อขายไม่มีเงินทุนที่จัดสรรให้ใช้งานอีกต่อไป และระบบจะจัดสรรเงินทุนเสมือนจริงให้ใหม่
โปรดทราบว่า คุณสามารถรวมได้เฉพาะบัญชีที่มีเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งกำไรเท่ากันเท่านั้น
โปรดทราบว่าแผนบูสต์ไม่สามารถรวมบัญชีได้
การจัดสรรเงินทุนเสมือนจริงขึ้นอยู่กับค่าสมัครสอบของระดับที่คุณเลือกในช่วงสอบ ซึ่งมีดังนี้
| ระดับ | 5k | 10k | 25k | 50k | 100k | 188k | 250k | 500k |
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ค่าธรรมเนียม | $35 | $60 | $199 | $299 | $599 | $888 | $1,200 | $2,400 |
| ทุนเสมือน | $5,000 | $10,000 | $25,000 | $50,000 | $100,000 | $188,888 | $250,000 | $500,000 |
| ส่วนแบ่งกำไร | 80% | 80% | 80% | 80% | 80% | 80% | 80% | 80% |
| ระดับ | 10K | 50K | 100K |
|---|---|---|---|
| ค่าธรรมเนียม | $99 | $399 | $699 |
| ทุนเสมือน | $10,000 | $50,000 | $100,000 |
| ส่วนแบ่งกำไร |
80% - การจ่ายครั้งแรก 90% - การจ่ายครั้งถัดไปs |
80% - การจ่ายครั้งแรก 90% - การจ่ายครั้งถัดไปs |
80% - การจ่ายครั้งแรก 90% - การจ่ายครั้งถัดไปs |
การสอบระดับ 500K จัดสรรเงินทุนเสมือนจริงจำนวน $500,000 ซึ่งเป็นจำนวนเงินสูงสุดของเงินทุนจัดสรรเสมือนจริงสำหรับผู้เข้าร่วมที่กำหนด โปรดทราบว่า หากคุณผ่านการสอบหลายครั้ง เงินทุนเสมือนจริงจะถูกรวมไว้ในบัญชีเดียว ซึ่งมีได้สูงสุดไม่เกิน $500,000. โปรดทราบว่าบัญชีบูสต์ไม่สามารถรวมบัญชีได้
ไม่ เงินทุนที่คุณใช้ซื้อขายในฐานะผู้ให้สัญญาณเป็นเงินทุนเสมือนจริง และด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถถอนได้ อย่างไรก็ตาม คุณมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งกำไรที่คุณทำได้ในบัญชีเสมือนจริง
ใช่ นอกเหนือจากการละเมิดภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่บังคับใช้แล้ว การละเมิดกฎกติกาเหล่านี้จะส่งผลให้คุณสูญเสียบัญชีได้
คุณสามารถซื้อขายตราสารได้หลากหลาย ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดสัญญา สถานะการซื้อขาย และขนาดขั้นตอน จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตราสารที่คุณเลือก คุณสามารถดูรายการทั้งหมดได้ที่นี่
สูงสุด 100:1 สำหรับ FX และทองคำ
สูงสุด 50:1 สำหรับดัชนีสัญญาการซื้อขายส่วนต่าง (CFD) และสินค้าโภคภัณฑ์
สามารถดูมาร์จิ้นที่กำหนดสำหรับแต่ละตราสารได้ที่นี่
ขีดจำกัดการขาดทุนรายวัน เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่สำคัญที่ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการขาดทุนมากเกินไปจากบัญชีการเทรดของคุณในวันเดียว เปรียบเสมือนกับตาข่ายนิรภัยที่ปกป้องคุณจากการขาดทุนที่เกินขอบเขต
สำหรับแผนคลาสสิก ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันจะมีความยืดหยุ่น( Dynamic) โดยจะปรับเปลี่ยนทุกวันตามมูลค่าของเงินทุนในบัญชีตอนสิ้นสุดวัน ซึ่งช่วยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับเทรดเดอร์ในการรับความเสี่ยงเพิ่มเติมเมื่อบัญชีของคุณเติบโตขึ้น
สำหรับแผนบูสต์ ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันจะคงที่( Static) หมายความว่ามันจะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่คงที่จากยอดเงินเริ่มต้นในบัญชีของคุณ ซึ่งช่วยรักษาทุนการเทรดไว้ให้ปลอดภัย และให้ความสามารถในการคาดการณ์และความง่ายในการจัดการความเสี่ยง
ไม่ว่าคุณจะใช้แผนประเภทใด ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันจะคงที่ตลอดทั้งวันการเทรด แม้ว่ายอดเงินในบัญชีของคุณจะเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้การจัดการความเสี่ยงมีความสม่ำเสมอและป้องกันไม่ให้คุณรับความเสี่ยงเกินไปหลังจากช่วงเวลาที่ทำกำไร
ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงโดยการกำหนดจำนวนสูงสุดที่บัญชีของคุณสามารถขาดทุนในหนึ่งวัน สำหรับแผนคลาสสิกขีดจำกัดนี้จะปรับเปลี่ยนทุกวันตามประสิทธิภาพของบัญชีของคุณ
ทุกวันเวลา 17:00 น. ตามเวลา EST (เวลาในนิวยอร์ก) ยอดเงินในบัญชีของคุณจะถูกบันทึก
ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันสำหรับวันถัดไปจะถูกคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดเงินในบัญชีตอนสิ้นสุดวันนั้น
ตัวอย่างเช่น หากยอดเงินในบัญชีตอนสิ้นสุดวันของคุณคือ $150,000 และขีดจำกัดการขาดทุนรายวันคือ 5% ขีดจำกัดของคุณสำหรับวันถัดไปจะเป็น $7,500
ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันนี้จะคงที่ตลอดทั้งวันการเทรด แม้ว่ายอดเงินในบัญชีของคุณ จะเพิ่มขึ้นจากการเทรดที่ทำกำไร ขีดจำกัดนี้จะพิจารณาทุกแง่มุมของบัญชีของคุณ รวมถึงกำไรและขาดทุนที่ยังไม่ได้รับการบันทึกและการสวอป (ต้นทุนการเงินข้ามคืน) หากยอดเงินในบัญชีของคุณลดลงจนถึงขีดจำกัดการขาดทุนรายวันหรือมากกว่านั้นในระหว่างวันการเทรด จะถือว่าคุณผิดกฎ
ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงโดยการกำหนดจำนวนสูงสุดที่บัญชีของคุณสามารถขาดทุนในหนึ่งวัน สำหรับแผนบูสต์ ขีดจำกัดนี้จะคงที่และเข้าใจง่าย
สำหรับแผน Boost ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันจะเป็น 5% ของยอดเงินเริ่มต้นในบัญชีของคุณเสมอ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่ากิจกรรมการเทรดของคุณจะเป็นอย่างไร
ตัวอย่างเช่น หากคุณเริ่มต้นด้วยบัญชีที่มียอดเงิน $100,000 ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันของคุณจะเป็น $5,000 ต่อวัน (5% ของ $100,000)
ขีดจำกัดการขาดทุนรายวันนี้จะคงที่ตลอดช่วงเวลาการเทรดทั้งหมด แม้ว่ายอดเงินในบัญชีของคุณจะเพิ่มขึ้นจากการเทรดที่ทำกำไร ขีดจำกัดนี้จะพิจารณาทุกแง่มุมของบัญชีของคุณ รวมถึงกำไรและขาดทุนที่ยังไม่ได้รับการบันทึก และการสวอป (ต้นทุนการเงินข้ามคืน) หากยอดเงินในบัญชีของคุณลดลง $5,000 หรือมากกว่าในหนึ่งวัน จะถือว่าคุณผิดกฎขีดจำกัดการขาดทุนรายวัน
เวลาทำการของเราสอดคล้องกับตลาดการเงินทั่วโลก เวลาซื้อขายอาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาออมแสงและวันหยุดนักขัตฤกษ์บางวัน หากคุณตัดสินใจที่จะเปิดสถานะการซื้อขายทิ้งไว้ในช่วงสุดสัปดาห์ การซื้อขายของคุณจะอยู่ภายใต้กฎการซื้อขายช่วงสุดสัปดาห์
ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุด เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่สำคัญที่ช่วยปกป้องบัญชีการเทรดของคุณโดยการกำหนด "ขั้นต่ำ" สำหรับยอดเงินในบัญชีของคุณ หากยอดเงินในบัญชีของคุณลดลงต่ำกว่าระดับนี้ จะถือว่าเป็นการละเมิดกฎอย่างรุนแรง และความท้าทายของคุณจะสิ้นสุดลง
ขีดจำกัดการถอนสูงสุดจะถูกคำนวณแตกต่างกันระหว่างแผนคลาสสิกและแผน บูสต์
สำหรับแผนคลาสสิก ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดจะเป็นขีดจำกัด Dynamic (ติดตาม) ที่ปรับเปลี่ยนตามยอดเงินในบัญชีของคุณ ขีดจำกัดจะกลายเป็นระดับคงที่เมื่อมันติดตามจนถึงยอดเงินเริ่มต้นในบัญชีของคุณ
สำหรับแผนบูสต์ ขีดจำกัดการถอนเงินสูงสุดจะเป็นขีดจำกัดคงที่ ที่ 90% ของยอดคงเหลือในบัญชีเริ่มต้นของคุณ
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับขีดจำกัดการถอนสูงสุดถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการความเสี่ยงและการเลือกประเภทแผนที่สอดคล้องกับรูปแบบการซื้อขายและการยอมรับความเสี่ยงของคุณ
ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุด จะเป็น แบบติดตาม (trailing) หรือ คงที่ (static) ขึ้นอยู่กับแผนที่คุณเลือก:
แผนคลาสสิก ใช้ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดแบบติดตาม (trailing) ที่ปรับเปลี่ยนตามการเติบโตของบัญชีของคุณ ซึ่งช่วยให้คุณรับความเสี่ยงได้มากขึ้นเมื่อคุณประสบความสำเร็จ
ยอดเงินสูงสุดใหม่แต่ละครั้งจะตั้งค่า High-Water Mark (HWM) ขีดจำกัดการขาดทุนของคุณจะคำนวณจาก HWM ปัจจุบัน ซึ่งทำให้มันเพิ่มขึ้นตามความสำเร็จของคุณ อย่างไรก็ตาม ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดแบบติดตามจะมีขีดจำกัดที่ยอดเงินเริ่มต้นในบัญชีของคุณ หากยอดเงินของคุณลดลง ขีดจำกัดการขาดทุนจะยังคงอยู่ที่ HWM ที่สูงที่สุดที่เคยทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณขาดทุนมากเกินไป
สิ่งนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มุ่งหวังการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและมีความ สะดวกในการจัดการความเสี่ยงแบบไดนามิก
แผน Boost มีขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดแบบคงที่ ซึ่งตั้งไว้ที่ 90% ของยอดเงินเริ่มต้นในบัญชี ขีดจำกัดนี้จะคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าประสิทธิภาพของบัญชีจะเป็นอย่างไร ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงที่สม่ำเสมอและการรักษาทุน
ต่อไปนี้คือสถานการณ์ตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีการทำงานของขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดร่วมกับกฎอื่นๆ
ขีดจำกัดการถอนเงินสูงสุดจะปกป้องบัญชีซื้อขายของคุณโดยกำหนด "ขั้นต่ำ" ที่ยอดเงินในบัญชีของคุณไม่สามารถลดลงต่ำกว่านี้ได้ ขั้นต่ำนี้จะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของบัญชีของคุณ ทำให้คุณรับความเสี่ยงได้มากขึ้นเมื่อคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น
เมื่อคุณเริ่มต้น ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดจะถูกคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดเงินเริ่มต้นในบัญชีของคุณ ตัวอย่างเช่น หากยอดเงินเริ่มต้นของคุณคือ $100,000 และขีดจำกัดการขาดทุนคือ 10% ขีดจำกัดการขาดทุนเริ่มต้นของคุณจะเป็น $90,000
เมื่อบัญชีของคุณเติบโต ขีดจำกัดการขาดทุนจะ "ติดตาม" ขึ้นไป โดยทุกครั้งที่บัญชีของคุณถึงยอดสูงสุดใหม่ ("High-Water Mark" หรือ HWM) ขีดจำกัดการขาดทุนจะถูกคำนวณใหม่จาก HWM ใหม่ อย่างไรก็ตาม ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดแบบติดตามจะมีขีดจำกัดที่ยอดเงินเริ่มต้นในบัญชีของคุณ
หากยอดเงินในบัญชีของคุณลดลง ขีดจำกัดการถอนเงินจะไม่ลดลง แต่จะคงอยู่ที่ระดับสูงสุดที่เคยถึง ซึ่งจะช่วยป้องกันคุณจากการสูญเสียจำนวนมาก แม้ว่าจะผ่านช่วงที่เงินเติบโตแล้วก็ตาม
นี่คือตัวอย่าง: หากเริ่มการเทรดด้วยยอดเงินเริ่มต้นในบัญชี $100,000 ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดจะเป็น 10% ($10,000) หรือ $90,000 หากกำไรและขาดทุนที่รับรู้ (Realized P&L) เพิ่มขึ้นเป็น $105,000 (ยอดคงเหลือ HWM ใหม่) ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดจะติดตามขึ้นไปที่ $95,000 (HWM ของ $105,000 - $10,000) ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดจะติดตามจนถึงยอดเงินเริ่มต้นสูงสุด ดังนั้นในกรณีนี้มันจะเพิ่มขึ้นจนถึง $100,000 หากยอดเงินในบัญชีลดลง ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดแบบติดตามจะไม่ลดลงตาม แต่จะคงอยู่ที่ระดับเดิม นี่คือสถานการณ์ตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีการทำงานของขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดร่วมกับกฎอื่นๆ
การผสมผสานระหว่างขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดแบบติดตาม (trailing) และขีดจำกัดการขาดทุนรายวันแบบไดนามิก (dynamic) สร้างกรอบการจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง กรอบนี้ช่วยให้เทรดเดอร์มีตาข่ายนิรภัยที่ส่งเสริมการเทรดอย่างมีระเบียบวินัย และท้ายที่สุดเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในโลกของการเทรด Prop Trading ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดแบบคงที่คือ 90% ของยอดเงินเริ่มต้นในบัญชี ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกพิจารณาว่าผิดกฎหากยอดเงินในบัญชีลดลงถึงหรือต่ำกว่า 90% ของยอดเริ่มต้น การคำนวณนี้รวมถึงกำไรและขาดทุนที่ยังไม่ได้รับการบันทึก, การสวอป และเงินปันผลทั้งหมด
นี่คือตัวอย่าง: หากเริ่มการเทรดด้วยยอดเงินเริ่มต้นในบัญชี $100,000 ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดจะเป็น 10% ($10,000) หรือ $90,000 หากกำไรและขาดทุนที่รับรู้ (Realized P&L) เพิ่มขึ้นเป็น $105,000 ขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดจะยังคงอยู่ที่ $90,000
การผสมผสานระหว่างขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดแบบคงที่และขีดจำกัดการขาดทุนรายวันที่คงที่ สร้างกรอบการจัดการความเสี่ยงที่มีความแข็งแกร่ง กรอบนี้ช่วยให้เทรดเดอร์มีตาข่ายนิรภัยที่ส่งเสริมการเทรดอย่างมีระเบียบวินัย และท้ายที่สุดเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในโลกของการเทรด prop trading ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
ระดับขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดสามารถติดตามได้ผ่านทางพอร์ทัล OANDA Prop Trader Dashboard
เราไม่อนุญาตให้ทำการคัดลอกการเทรดระหว่างบัญชีหลายบัญชีหรือบัญชีใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมเทรดเดอร์ OANDA Prop โปรดทราบว่า หากเราพบพฤติกรรมการคัดลอกการเทรดหรือพฤติกรรมการป้องกันความเสี่ยง/การเทรดที่ตรงกันข้ามระหว่างบัญชี จะถือเป็นการละเมิดกฎการเทรดและบัญชีของคุณจะถูกปิดการใช้งาน
การคัดลอกจากบัญชี OANDA Prop ไปยังบริษัทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ OANDA และบุคคลที่สามไม่ถูกจำกัด
อย่างไรก็ตาม การคัดลอกเข้าสู่บัญชี OANDA Prop จากบัญชีการค้าของ OANDA หรือจากบริษัทภายนอกหรือจากบริการหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สามอื่น ๆ จะไม่ได้รับอนุญาตและถือเป็นการละเมิดอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้บัญชีถูกปิด
การเทรดในโปรแกรม OANDA Prop มีข้อจำกัดในช่วงเหตุการณ์ข่าวการเงินสำคัญ เช่น NFP, CPI, GDP, การประกาศของ FED และ ECB ผู้เข้าร่วมควรหลีกเลี่ยงการเปิดหรือปิดการเทรดใหม่ภายในช่วงเวลาสี่นาที: 2 นาที ก่อนและ 2 นาที หลังจากการประกาศข่าวสำคัญ สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการดำเนินการเทรดหมายถึงการเปิดหรือปิดการเทรดจากคำสั่งที่รอดำเนินการ (Entry Stops หรือ Entry Limits), คำสั่งตลาด หรือ EAs (ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ)
ข้อยกเว้นสำหรับกฎการเทรดตามข่าวอาจได้รับการพิจารณาในบางกรณี เช่น การปิดตำแหน่งที่เปิดอยู่เนื่องจากคำสั่ง SL/TP ที่ถูกเรียกใช้งาน
การเทรดตามข่าวเป็นการปฏิบัติการเทรดที่ต้องห้ามตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา (ดูได้ที่นี่) การมีส่วนร่วมในการเทรดตามข่าวอาจทำให้กำไรที่ได้รับจากการเทรดดังกล่าวถูกลบออกจากบัญชีและ/หรือการเข้าถึงบัญชีถูกยกเลิก
คุณสามารถดูเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญได้จากแดชบอร์ดของคุณ > ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) เพื่อดูเหตุการณ์เศรษฐกิจที่มีการระบุว่าเป็น ‘ความสำคัญสูง’ ซึ่งจะมีการจำกัดการเทรดตามข่าว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมลิงก์นี้
ผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ของ OANDA มีกฎผลกำไรสูงสุดรายวันหรือความสอดคล้องในระหว่างขั้นตอนการประเมินการค้า (การสอบ) กฎเหล่านี้ใช้ไม่ได้เมื่อมีการจัดสรรบัญชีการซื้อขายแบบ Prop Trading กฎเกณฑ์ในระหว่างขั้นตอนการประเมินได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างผลกำไรที่มั่นคงและยั่งยืนในขณะเดียวกันก็จัดการความเสี่ยงได้อย่างเชี่ยวชาญ
เรากำลังมองหาผู้ซื้อขายที่ทำกำไรได้ ซึ่งสามารถสร้างผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและมั่นคงไปพร้อมกับควบคุมความเสี่ยงและการจัดการเงินได้อย่างเหมาะสม การอาศัยชัยชนะครั้งใหญ่เป็นครั้งคราวจากการซื้อขายน้อยครั้งในช่วงที่ตลาดผันผวน อาจเป็นผลมาจากโชคล้วน ๆ และอาจไม่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวกับการสร้างนิสัยเพื่อความสำเร็จในระยะยาว การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นจะช่วยให้คุณรักษาการเติบโตที่มั่นคง ซึ่งจะนำไปสู่ผลทางการเงินที่ดีขึ้นและเส้นทางการซื้อขายที่มั่นคงยิ่งขึ้น
มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้ในระหว่างการประเมินทั้งสองช่วง
ช่วงที่หนึ่ง: กำไรสูงสุดรายวัน 5%
ช่วงที่สอง: กำไรสูงสุดรายวัน 2%
หากบัญชีเติบโตไปจนถึงกำไรสูงสุดในวันใดวันหนึ่ง สถานะทั้งหมดจะถูกปิด และกำไรและขาดทุนที่ได้มาจากสถานะที่เปิดอยู่ทั้งหมดจะถูกรับรู้ในบัญชี การซื้อขายในบัญชีจะถูกปิดใช้งานจนถึงวันถัดไป
นี่คือตัวอย่างสถานการณ์เกี่ยวกับวิธีการทำงานของขีดจำกัดกำไรสูงสุดรายวันร่วมกับกฎอื่น ๆ
คุณสามารถเข้าร่วมการสอบได้หลายรายการและมีบัญชีการสอบหลายบัญชี หลังจากที่สอบผ่าน คุณจะมีบัญชีผู้ซื้อขายแบบ Prop Trading ได้เพียงบัญชีเดียวเท่านั้นไม่ว่าเวลาใดก็ตาม
ใช่ ตราบใดที่คุณซื้อขายภายในอัตราเลเวอเรจ 100:1 และขนาดล็อตสูงสุดตามที่ได้รับอนุญาต คุณก็อาจป้องกันสถานะซื้อขายแบบป้องกันความเสี่ยงได้ทั้งสองด้าน
ได้ คุณสามารถใช้โปรแกรมช่วยซื้อขาย (EA), สคริปต์ และอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่อนุญาตให้คัดลอกการซื้อขาย หรือใช้โปรแกรมช่วยซื้อขาย (EA) ที่ใช้เทคนิคการเก็งกำไรด้านราคาหรือหน่วงเวลา และพฤติกรรมการซื้อขายอื่น ๆ ตามที่อธิบายไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง
คุณสามารถซื้อขายบน MetaTrader 5 ได้ MetaTrader เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายของบุคคลภายนอก หากคุณมีปัญหาในการใช้งาน โปรดดูหน้าคำถามที่พบบ่อยในการแก้ปัญหา คำแนะนำของเราเกี่ยวกับการใช้แพลตฟอร์มการซื้อขาย MT5 มีดังนี้
คุณสามารถขอการจ่ายเงินได้จากพอร์ทัลผู้ใช้ของคุณ เมื่อคุณทำเช่นนั้น บัญชี MetaTrader จะถูกปิดการเทรดชั่วคราวในระหว่างที่เรากำลังดำเนินการตามคำขอของคุณ การเทรดสามารถกลับมาเริ่มต้นได้อีกครั้งเมื่อคำขอการจ่ายเงินได้รับการอนุมัติและเงินถูกถอนออกจากบัญชี MetaTrader โปรดทราบว่าคุณสามารถขอการจ่ายเงินได้เพียงทุก 14 วัน และคุณจะต้องปิดตำแหน่งที่เปิดทั้งหมดก่อนที่คำขอการจ่ายเงินของคุณจะได้รับการดำเนินการ การจ่ายเงินทั้งหมดจะถูกโอนเข้าบัญชี OANDA Global Markets ที่คุณสร้างขึ้นเมื่อคุณตั้งค่าบัญชี OANDA Prop Trader ของคุณ
คุณสามารถติดต่อเราผ่านทางอีเมล ที่อยู่อีเมลฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของเราคือ support-proptrader@oanda.com
เรารับวิธีการชำระเงินดังต่อไปนี้สำหรับการซื้อชาเลนจ์: ตัวเลือกการชำระเงินที่รองรับอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาคของคุณ และจะแสดงให้เห็นในขั้นตอนชำระเงิน
